สถานที่ท่องเที่ยวรัสเซียที่น่าสนใจ

สถานีรถไฟใต้ดินกรุงมอสโคว (METRO) สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1931 โดยได้รับการยกย่องจากทั่วโลกว่าเป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่สวยที่สุดในโลก ซึ่งในแต่ละสถานีจะมีการตกแต่งที่แตกต่างกัน ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
สถานีรถไฟใต้ดินได้กลายเป็นหลุมหลบภัยที่ดีที่สุดเพราะมีโครงสร้างที่แข็งแรง รวมทั้งการก่อสร้างที่ขุดลงลึกไปถึงใต้ดินหลาย 10 เมตร และ บางสถานียังเป็นที่ บัญชาการระหว่างสงครามอีกด้วย
ในปัจจุบันรถไฟใต้ดินที่กรุงมอสโคว์มีถึง 11 สาย 156 สถานี ด้วยความยาวทั้งหมด 260 ก.ม.

เริ่ม สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ 1712 และสร้างเสร็จในวันที่ 29 มิถุนายน ค.ศ. 1733
ตั้งชื่อวิหารแห่งนี้เพื่อเป็นเกียรติ์แด่ นักบุญปีเตอร์ และนักบุญปอลด์เพื่อ เป็นการเผยแพร่ศาสนา
ซึ่งวิหารแห่งนี้เป็นที่เก็บพระศพของราชวงศ์โร มานอฟ เริ่มต้นจากพระเจ้าปีเตอร์มหาราชเป็นองค์แรก
จนกระทั่งถึง กษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ที่เพิ่งนามาในปีค.ศ 1998 โดยการตรวจ DNA
ทราบว่าคือ พระเจ้านิโคลัส ที่ 2 และครอบครัวซึ่งประกอบด้วย พระเจ้านิโคลัสที่ 2
พระมเหสี อเล็กซานดรา และพระธิดา 3 พระองค์คือโอลก้า (Olga) ทาเทียนา (Tatiana)
และอนาสตาเซีย (Anastasia) ส่วนที่ไม่พบคือ มาเรีย (Maria) และรัชทายาทอเล็กเซย์ (Alekxey)
บริเวณโดยรอบมีโรงงานผลิตเหรียญและที่ขังคุกนักโทษทาง การเมือง

ริมฝั่งทะเลบอลติคสร้างในปี ค.ศ.1705 ในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ซึ่งพระองค์ใช้เป็นที่พักผ่อน
สำหรับล่าสัตว์ในฤดูร้อน โดยมีความประสงค์จะให้พระราชวังนี้มีความงดงามยิ่งกว่าพระราชวังแวร์ซาย์ส
ในฝรั่งเศสเพื่อแสดงออกถึงความเจริญรุ่งเรืองของรัสเซีย และเนื่องจากได้รวบรวมสถาปนิกและช่างฝีมือ
จากประเทศต่างๆ มากมาย สิ่งก่อสร้างและสถาปัตยกรรมที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาร็อค
และนีโอคลาสิค ที่ใช้ประดับประดาห้องหับต่างๆ เช่น ห้องบอลรูม ห้องท้องพระโรง ท่านจะตื่นตาตื่นใจกับ
ประติมากรรมนํ้าพุอันโดดเด่นอลังการด้วยทองเหลืองอร่าม และร่มรื่นลงตัวกับอุทยานพฤกษานานาพันธุ์

สร้างในปีค.ศ. 1712 โดยมีโดมทองเป็นเอกลักษณ์ ใน อดีตวิหารเซนต์ไอแซคเป็นเพียงโบสถ์ไม้ธรรมดา
ซึ่งต่อมาได้รับการ ปรับปรุงเป็นโบสถ์หิน และถูกสร้างใหม่อย่างงดงามในสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1
ที่ปรารถนาจะให้วิหาร แห่งนี้เป็นวิหารที่มีความยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก พระองค์จึงทุ่มเททั้งกำลังคน
และกำลังทรัพย์อย่างมหาศาล เฉพาะยอดโดมใช้ทองคาแผ่นปิดหนักรวม 100 กิโลกรัม
ภายในวิหารประดับประดาด้วยหินอ่อน, และมาลาไคท์ หลากสี ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 40 ปี
ปัจจุบัน วิหารนี้ ได้รับการยกย่องให้เป็นวิหารทรงโดมที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ที่งดงามที่สุดในโลก
.jpg)
เรือรัสเซียนาวี ได้ชื่อ ว่าเป็นเรือรบที่เก่าแก่ที่สุดในรัสเซีย โดยเป็นเรือลาดตระเวนที่รับใช้ชาว
รัสเซียมายาวนาน ตั้งแต่ครั้งสงครามรัสเซียกับญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1904 - 1905
เคยร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 รวมถึงใช้ยิงปืนเป็น
สัญญาณการเข้ายึดพระราชวังฤดูหนาวที่เซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ในการปฏิวัติสังคมนิยมที่นาโดยเลนิน เมื่อปี ค.ศ.1917และยังเป็นเรือที่โดยสารซาร์นิโคลัสที่ 2
พร้อมราชนิกุลคนอื่นๆ มายังพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 6 ในปี ค.ศ.1911
ปัจจุบันเรือออโรร่าได้ปลดประจำการ กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำ

คำว่า Tsarskoye Selo(ซากอเย เซโล)ในภาษารัสเซียหมายถึง หมู่บ้านพระเจ้าซาร์ (Tsar's Village
สร้างในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราชเป็นพระราชวังหลวงอันสวยงาม และสวนแห่งความสุขความทรงจำ
ในปีค.ศ. 1708-1724 เป็นที่พักผ่อนในฤดูร้อนของพระมเหสีองค์โปรดคือ พระนางแคทเธอรีนที่ 1
ต่อมาก็ยกให้กับพระธิดาคือพระนางอลิสซาเบธในปี ค.ศ.1741 ได้ทำการตกแต่งพระราชวังให้
มีความหรูหรามากขึ้นโดยทำ การขยายพื้นที่ของสวนออกไปสถาปนิกผู้ออกแบบคือ
Bartolomeo Francesco Rastrelli

โบสถ์แห่งหยดเลือด สร้างให้เป็นเกียรติแด่พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2
ผู้ประกาศเลิกทาส ด้วยความหวังดีต่อประชาชน ปรากฎว่าชาวรัสเซียไม่เข้าใจ
เพราะหลังเลิกทาส ชาวนากลับมีความเป็นอยู่ที่จนลง
เป็นผลให้พวกชาวนารวมตัวกันว่าแผนปลงพระชนม์
โดยส่งหญิงชาวนาผู้หนึ่งติดระเบิดพลีชีพวิ่งเข้ามาขณะพระองค์เสด็จผ่าน
ต่อมาบริเวณถนนที่เกิดเหตุนั้นถูกสร้างโบสถ์ครอบไว้
กลายเป็นโบสถ์หยดเลือดมาจนถึงทุกวันนี้
ปี พ.ศ. 2534 จึงเปลี่ยนชื่อกลับเป็นเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

วิหารหลวงที่เก่าแก่สำคัญและใหญ่ที่สุดในเครมลิน โดยสร้างทับลงบนโบสถใไม้เก่าที่มีมาก่อนแล้ว
ใช้ในการประกอบพิธีราชาภิเษก ชมป้อมปืนใหญ่, หอระฆังพระเจ้าอีวานและ
ชมระฆังยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (หมายเหตุ: จากัดรอบเวลาในการเข้าชมเพียง
วันละ 4 รอบเท่านั้นคือ 10.00, 12.00, 14.30, 16.30 น.
ดังนั้นกรุณาตรงต่อเวลานัดหมายอย่างเคร่งครัด)

ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญตั้งอยู่กลางใจเมืองของมอสโคว์เป็นจัตุรัสที่สวยงามที่สุดในโลก
เป็นสถานที่เก็บศพเลนิน ศาสดาของประเทศสังคมนิยม สร้างด้วยหินแกรนิต และหินอ่อน
นับล้านชิ้นตอกลงบนพื้นจนกลายเป็นลานหินโมเสกเป็นพื้นที่ลานกว้าง ทางด้านหน้าจัตุรัสแดงนั้น
เป็นที่ตั้งของกิโลเมตรที่ศูนยใของรัสเซีย สังเกตุได้จากที่พื้นถนนจะมีสัญลักษณใเป็นวงกลม และ
ภายในวงกลมนี้เองก็จะมีนักท่องเที่ยวเข้าไปยืนกลางวงกลมนั้นและโยนเศษเหรียญข้ามไหล่ตัวเอง
ไปด้านหลังเพื่ออธิษฐานให้ได้กลับมาที่มอสโควอีกครั้ง ลานกว้างของจัตุรัสแดงนี้มีพื้นที่กว้าง 695 เมตร
ยาว 130 เมตร ทำหน้าที่เป็นสถานที่จัดงานสำคัญๆ ต่างๆ ของรัสเซียมาหลายยุคหลายสมัย
บริเวณจัตุรัสแดงยังประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รายรอบอีกมากมายเช่น พระราชวังเครมลิน
พิพิธภัณฑใประวัติศาสตร์รัสเซีย

เป็นตุ๊กตาของรัสเซียที่เรียงซ้อน ๆ กันหลายตัว ชื่อนี้แผลงมาจากชื่อสตรีภาษารัสเซีย ว่า "มาตรีโยนา"
หรืออาจจะถูกเรียกว่าตุ๊กตาคุณยาย ตุ๊กตาแม่ลูกดก ชุดหนึ่งประกอบด้วยตุ๊กตาไม้หลายตัวเรียงซ้อนกันอยู่
ข้างใน แต่ละตัวประกอบด้วยสองส่วน คือส่วนบนและส่วนล่าง นำมาประกบกันได้สนิทตามร่องที่เซาะเอาไว้
ตุ๊กตาทุกตัวมีโพรงข้างใน เว้นแต่ตัวสุดท้ายซึ่งมีขนาดเล็กสุด จะเป็นตุ๊กตาเต็มตัว ตัน ชิ้นเดียว
ตุ๊กตาแม่ลูกดกชุดหนึ่งจะมีตุ๊กตาซ้อนข้างในกี่ตัวก็ได้ ถ้ามีจำนวนมาก ตุ๊กตาตัวใหญ่สุดก็จะต้อง
มีขนาดใหญ่มากด้วย ตุ๊กตาทุกตัวจะมีรูปร่างเหมือนกันหมด คือ คล้ายกระบอก โป่งตรงกลาง ด้านบนโค้งมน
ส่วนฐานเรียบ ไม่มีมือหรือส่วนใดยื่นออกมา แต่จะใช้สีวาดเป็นหน้าเป็นตาหรือขาทั้งหมด
ให้ตุ๊กตาแต่ละตัวมีใบหน้าและเสื้อผ้าที่เหมือนกันด้วย ทั้งยังเคลือบเงาอย่างสวยงาม
.jpg)
สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1147 โดยมกุฎราชกุมารแห่งนครเคียฟ เจ้าชายยูริ โดลโกรูกี
มีรับสั่งให้สร้างเพื่อใช้ป้องกันศัตรู ในอดีตเป็นเพียงป้อมปราการไม้ธรรมดา
ที่เป็นเหมือนหัวใจของกรุงมอสโคว ตามความเชื่อของชาวรัสเซียเครมลินคือ
ที่สถิตยใของพระเจ้า ปัจจุบันพระราชวังเครมลินเป็นพิพิธภัณฑ์
และที่ตั้งสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น สภาคองเกรส วิหารต่างๆ
หอระฆังของอีวานมหาราชและสิ่งก่อสร้างอื่นๆ อีกมากมาย

ชมภายในพระราชวัง ที่ประกอบด้วยห้องต่างๆ มากกว่า 1,050 ห้อง
ณ สถานที่แห่งนี้เคยใช้เป็นที่รับรองการเสด็จเยือนรัสเซียของรัชกาลที่ 5 ของไทย
ในการเจริญสัมพันธไมตรีไทย / รัสเซีย
พร้อมทั้งทรงร่วม ฉายพระฉายาลักษณ์ร่วมกับพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ของรัสเซียอีกด้วย

ที่อยู่ในบริเวณพระราชวังเครมลิน พิพิธภัณฑ์นี้เป็นสถานที่เก็บสมบัติลํ้าค่ากว่า 4,000 ชิ้น
เช่น ศาสตราวุธต่างๆ เครื่องป้องกันตัว หมวก เสื้อเกราะที่ใช้รบในสมรภูมิ เครื่อง เงิน ทอง
เพชรพลอยเครื่องทรงของกษัติย์พระเจ้าซาร์และซารีน่าซึ่งหาดูได้ยากยิ่ง

หนึ่งสถาปัตยกรรมที่กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของกรุงมอสโคว์ ด้วยรูปทรงที่มีลักษณะเป็นโดมรูปหัวหอม
สีสันสดใส ตั้ง ตระหง่านสง่างาม ขนาบข้างด้วยกำแพงเครมลิน สร้างขึ้นโดยพระเจ้าอีวานที่ 4
(Ivan the Terrible) เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานในการรบชนะเหนือกองทัพของมองโกลที่เมืองคาซาน
ในปี พ.ศ. 2095 หลังจากถูกปกครองกดขี่มานานหลายร้อยปี ออกแบบโดยสถาปนิก ปอสนิก ยาคอฟเลฟ
(Postnik Yakovlev) และด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมจึงทำให้มีเรื่องเล่าสืบต่อกันว่า
พระเจ้าอีวานที่ 4 ทรงพอพระทัยในความงดงามของมหาวิหารแห่งนี้มากจึงมีคำสั่งให้ปูนบำเหน็จแก่
สถาปนิกผู้ออกแบบด้วยการควักดวงตาทั้งสอง เพื่อไม่ให้สถาปนิกผู้นั้นสามารถสร้างสิ่งที่สวยงามกว่านี้ได้อีก
การกระทำในครั้งนั้นของพระเจ้าอีวานที่ 4 จึงเป็นที่มาของสมญานามอีวานมหาโหด

หรือเนินเขานกกระจอก เป็นบริเวณที่มองเห็นทัศนียภาพ ของนครมอสโคว์ที่อยู่เบื้องล่างได้โดยทั้งหมด
จึงทำให้เลนินผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ในอดีต เลือกเนินเขานกกระจอกแห่งนี้เป็นที่ตั้งบ้านพักของตน
ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมอสโคว์ และเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในมอสโคว์
ที่คู่รักนิยมมาถ่ายภาพแต่งงาน รวมถึงเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นพิเศษใน
การชมบรรยากาศของมอสโคว์

สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1839 ในสมัยพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะและ
แสดงกตัญญุตาแด่พระเป็นเจ้าที่ทรงช่วยปกป้องรัสเซียให้รอดพ้นจากสงครามนโปเลียน
โดยใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 45 ปี แต่ต่อมาในปี ค.ศ.1990 สตาลินผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ในขณะนั้น
ได้สั่งให้ทุบโบสถ์ทิ้งเพื่อดัดแปลงเป็นสระว่ายนํ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกจนเมื่อปี ค.ศ.1994
ประธานาธิบดี บอริส เยลซิน ได้อนุมัติให้มีการก่อสร้างวิหารขึ้นมาใหม่ด้วยเงินบริจาคของคนทั้งประเทศ
ซึ่งจำลองของเดิมได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ วิหารนี้จึงกลับมายืนหยัดที่เดิมอีกครั้งโดยสร้างเสร็จสมบูรณ์
และทำพิธีเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ.2000
ปัจจุบันวิหารนี้ใช้ในการประกอบพิธีกรรมสำคัญระดับชาติของรัสเซีย

วลาดิมีร์ เลนิน (Vladimir Lenin) มีชื่อเต็มว่า วลาดิมีร์ อิลลิช เลนิน
(เกิด 22 เมษายน พ.ศ. 2413 - 21 มกราคม พ.ศ. 2466 (ค.ศ. 1924))
ผู้นำนักปฏิวัติมาร์กซิส คนแรกของสหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตที่สถาปนาเมื่อ พ.ศ. 2465
หัวหน้าพรรคบอลเชวิก นายกรัฐมนตรีคนแรกและเป็นเจ้าของแนวคิดส่วนใหญ่ในลัทธิเลนิน
เนื่องจากเข้าขบวนการปฏิวัติใต้ดิน หลังการปฏิวัติเลนินได้เป็นหัวหน้าพรรค “บอลเชวิค” (Bolshevik)
ที่ทำการปฏิวัติล้มล้างระบบกษัตริย์ของรัสเซียในปี พ.ศ. 2460
และตั้งตนเป็นผู้นำประเทศและรีบทำการเจรจาสงบศึกกับฝ่ายเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 1
เพื่อทุ่มกำลังปราบปรามฝ่ายต่อต้านในสงครามกลางเมืองของรัสเซียที่เกิดขึ้นระหว่าง พ.ศ. 2461-2464
เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กนั้นได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเมือง "เลนินกราด" เพื่อเป็นเกียรติแก่เลนิน
เมืองนี้ยังคงชื่อเลนินกราดไว้จนกระทั่งการล่มสลายของสหภาพโซเวียตใน
ปี พ.ศ. 2534 จึงเปลี่ยนชื่อกลับเป็นเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

ซีร์เกเยฟ ปาสาด (ซากอร์ส) Sergiyev Posad (Zagorsk) เมืองแห่งรัสเชียนออธอดอกซ์
ศูนย์รวมแห่งศรัทธาของชาวรัสเซีย ร่วมตามรอยปาฏิหารย์ของท่านซีร์เกย์ ราดาเนส (Sergey Rodonezh)
- อารามแห่งเซนต์เซอร์เจียส (Trinity Lavra of St.Sergius)
- ตลาดพื้นเมือง (Local Market

กล่าวถึงของหมู่บ้าน Izmailovo สามารถพบได้ในประวัติย้อนไกลกลับเป็นศตวรรษที่ 14
เป็นชื่อของครอบครัวครอบครัวหนึงในเวลานั้น ที่นี่เป็น ศูนย์รวมขายของที่ระลึกของรัสเซีย
ที่คนไทยชื่นชอบเป็นอย่างมาก ราคาต่อรองได้ รูปวาด ตุ๊กตาแม่ลูกดก ถูกกว่าที่เที่ยวอื่นๆทุกที่
เป็นซุ้มเหมือนตลาดนัด สนุกมากช๊อปที่นี่
.jpg)
ชื่อถนนนี้ปรากฏมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ในอดีตเป็นที่อยู่ของชนชั้นขุนนาง
และศิลปินที่มีผู้อุปถัมภ์ ต่อมาในสมัยสหภาพโซเวียต ถนนอารบัตเป็นย่านที่พัก
ของสมาชิกระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ ปัจจุบัน ถนนอารบัต กลายเป็นถนนคนเดิน
ที่มีชื่อเสียงที่สุดในรัสเซีย เป็นแหล่งของศิลปิน จิตรกร ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ ศูนย์วัฒนธรรม และโรงละคร เป็นต้น
.jpg)
ละครสัตว์รัสเซียมีชื่อเสียงมากตั้งแต่สมัยก่อน ในประเทศไทยก็เคยมีคณะละครสัตว์จากรัสเซียมาแสดง
การแสดง ละครสัตว์ได้รับความสนใจจากผู้ชมมากมาย ด้วยเพราะความมหัศจรรย์ของนักแสดงและ
ความสามารถของผู้กำกับ ทำให้คณะละครสัตว์ของรัสเซียได้รับการตอบรับที่ดีเสมอ
นอกจากความน่าสนใจในการแสดงน่าหวาดเสียวแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้ชมแม้กระทั่งชาวรัสเซีย
ให้ความสนใจ คือ การแสดงของนักแสดงนานาชาติที่ถูกรวบรวมไว้ที่นี่ การแสดงมีหลายชุด
โดยที่จะเน้นกายกรรมมากกว่าการแสดงโชว์ของสัตว์ ซึ่งกายกรรมของเขานี่เจ๋งจริงๆ

อยู่ทางทิศเหนือของสถานีรถไฟใต้ดิน ВДНХ ( เวเดนฮา - Vedenkha ) ใกล้ๆโรงแรมคอสมอส พิพิธภัณฑ์อวกาศ น่าสนใจมาก
และ ในบริเวณจ่อจากพิพิธภัณฑ์ คือสวนสาธารณะ เวเดนฮา ที่มี กลุ่มอาคาร สถาปัตยกรรมสัญชาติต่างๆ ใน
สมัยที่เป็นสหภาพโซเวีด มากมาย ที่ น่าเดินเที่ยวและยังมีสวนสนุกพื้นถิ่นคล้ายๆ ดรีมเวิล์ด
ไม่ใหญ่มากแต่ก็สนุกได้ไม่แพ้กัน บางครังมี นิทรรศการอื่นๆ มีอาหารพื้นเมือง หรือ อื่นๆ ตามเทศกาลอีกด้วย
น่าเที่ยวที่นึงที่ท่านจะไม่ได้พบนักท่องเที่ยว ต่างชาติ มากนัก เพราะบริษัททัวร์มักไม่ค่อยพาไป